7 วิธีแก้ปัญหาลูกไม่กินข้าว
บ่อยครั้งลูกที่เคยกินข้าวได้ตามที่เราอยากให้กิน จู่ๆก็ไม่ชอบกินของที่ชอบ ไม่ลองอะไรใหม่ๆ ปฏิเสธที่จะกินข้าวในมื้อเดิมๆซ้ำๆหรือกระทั่งกินข้าวไม่หมดจาน บอกเลยว่าปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดามากๆที่ไม่ว่าพ่อ-แม่คนไหนๆก็ต้องเจอ แต่ถามว่าแล้วทำไมล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น จะเป็นแบบนี้นานไหม หรือจะเป็นตลอดไป?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าจากช่วงวัยทารกจนถึงวัยหนึ่งๆ เด็กที่มีการเจริญเติบโตอย่างมากทั้งน้ำหนักและส่วนสูง ช่วงเวลาหนึ่งการเจริญเติบโตนั้นจะช้าลง อัตราการเพิ่มความสูงและน้ำหนักน้อยลงในขณะที่อายุมากขึ้น นั่นทำให้ร่างกายต้องการอาหารที่น้อยลงตามไปด้วย จากที่กินจุก็จะกินน้อยลง ซึ่งทำให้พ่อ-แม่วิตกกังวล แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็มีอีกหลายกรณีที่เป็นตัวเสริมแรงทำให้ลูกที่ไม่อยากกอาหาร รู้สึกไม่อยากกินขึ้นมาจริงๆด้วย
ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัส รสชาติ อาการป่วยต่างๆ ทั้งปวดฟัน ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น บรรยากาศการกิน หรือแม้แต่การบังคับให้กินให้หมดจาน ล้วนแล้วแต่ทำให้การกินอาหารเกิดบรรยากาศที่ไม่ดีภายในใจ เด้กๆจึงไม่อยากกินอาหาร จนอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ในอนาคต แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรล่ะ?
ลดความสนใจอื่นๆขณะกินข้าว

สิ่งที่ต้องลดและไม่ควรจะให้ตั้งแต่แรกก็คือการให้มือถือหรือไอแพดกับเด็กๆขณะทานข้าว ช่วงแรกมันอาจได้ผลดีที่เด็กๆกินได้แบบไม่ต้องบ่น แต่ในระยะยาวจะเกิดเป็นนิสัยการดูหน้าจอระหว่างกินข้าว นอกจากเขาจะสนใจอย่างอื่นมากกว่า ไม่โฟกัสการกินข้าว แล้วยังทำให้เขางอแงเพื่อให้ได้ดูอะไรๆระหว่างกินข้าวด้วย ซึ่งเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีเลย
สิ่งที่สามารถแก้ได้ง่ายที่สุดคือเริ่มจากตัวคุณเอง ถ้าไม่อยากให้ลูกติดมือถือ พ่อ-แม่ก็ต้องไม่ติดมือถือระหว่างกินข้าวเช่นกัน ทำให้เป็นนิสัยให้เด็กๆเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน จากนั้นก็พูดคุยกันในช่วงเวลานี้ ทำให้การกิรนข้าวเป็นช่วงเวลาที่ดีอย่างหนึ่งของวัน
ตักอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ให้กินของว่างมากเกินไป

เด็กมีขนาดตัวที่เล็กกว่าผู้ใหญ่ และมีขนาดของกระเพาะที่เล็กกว่าเช่นกัน การตักอาหารให้เหมาะสมจะทำให้เขากินอิ่มได้อย่างพอดี ถ้าตักน้อยไปอาจจะหิวและอยากกินจุบจิบได้ หรือถ้าตักมากเกินไปเพราะอยากให้กินเยอะๆอย่างที่หวังดี เขาอาจจะกินจนจุกและอยากอ้วก รวมถึงหากกินไม่หมดเพราะอิ่มแล้วก็อาจจะถูกต่อว่าได้ด้วย
ดังนั้นลองตักอาหารเป็นส่วนๆทีละน้อย เมื่อเขาไม่อิ่มก็จะค่อยๆเติมได้อีกจนพอเหมาะกับที่ร่างกายของเขาต้องการ รวมถึงลดเมนูของว่างระหว่างวัน อาจจัดให้น้อยลงหรือมีช่วงเลาที่ห่างจากมื้อหลัก เพื่อทิ้งเวลาให้เด็กๆเกิดความหิวให้กินมื้อหลักได้เต็มที่ ไม่อิ่มจากขนมซะก่อน
ทำบรรยากาศบนโต๊ะอาหารให้ไม่เครียด

ในวัยเด็กอาจไม่รู้จักว่าความเครียดคืออะไรแต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่รู้สึกเครียด หลายบ้านเวลากินข้าวด้วยกันก็จะมีบรรยากาศที่ไม่ดี อาจมีการทะเลาะ ถกเถียง หรือพฤติกรรมที่สร้างความรู้สึกไม่ดีต่างๆให้กับเด็ก ทำให้เขาไม่ชอบช่วงเวลานี้และไม่อยากกินอาหารในที่สุด
ควรนั่งกินข้าวด้วยบรรยากาศสบายๆ มีการพูดคุยกันที่ไม่ใช่การทะเลาะ พุดคุยแบบดีๆในเรื่องและน้ำเสียงที่ดี ไม่กดดันให้เด็กๆกินอาหารให้หมดหรือบังคับให้กินผักถ้าหากเขาไม่เต็มใจ เพื่อลดความเครียดและเพื่อให้ทุกคนจดจ่อกับการกินมากขึ้นทั้งเราและลูกๆก็จะกินได้มากขึ้นกว่าที่เคย
สังเกตพฤติกรรมและความชอบ

ในวัยเด็กจะรับสัมผัสต่างๆได้ดีกว่าวัยผู้ใหญ่และไวต่อรสสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยมากๆ พ่อ-แม่จึงต้องใส่ใจว่าลูกชอบหรือไม่ชอบกินอะไร กระทั่งว่าลูกกินผักสีอะไรมากกว่าอะไร และเพิ่มเมนูอาหารที่สามารถกินได้มากกว่าเข้าไปในมื้ออาหาร รวมถึงชวนลูกๆไปจ่ายตลาด ช่วยกันสร้างสรรค์เมนูและวัตถุดิบด้วยกัน เป็นการใช้เวลาร่วมกัน ให้ลูกเรียนรู้ และเรียนรู้สิ่งที่ลูกชอบได้โดยตรง
รวมถึงสอบถามสาเหตุการไม่กินข้าว เด็กๆอาจมีปัญหาทางร่างกายที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยพฤติกรรม และไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออาการอะไร จึงควรสังเกตและรีบปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ปัญหาจุดนี้ ไม่ว่าจะปวดฟัน ปวดท้อง ปวดหัว ไม่สบาย คลื่นไส้ กรดไหลย้อน สามารถเป็นได้ทั้งสิ้น
ไม่ให้ของว่างเมื่อลูกไม่กินมื้อหลัก

เป็นสิ่งที่พ่อ-แม่น่าจะปวดใจมาก แต่บ่อยครั้งที่เด็กๆไม่กินมื้อหลักเพราะต้องการกินของว่างหรือขนม ที่จะได้หากไม่กิน ทำให้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีได้ในอนาคต ข้อนี้จึงต้องวัดใจกันมากๆและแข็งใจไม่ใจอ่อนเด็ดขาด แต่ถ้าหากลูกไม่กินข้าวเนื่องจากปัญหาทางร่างกายจริงๆก็ควรปรึกษาแพทย์
ไม่เสริมแรงเชิงลบ

ไม่ควรดุ บังคับให้กิน หรือใช้กำลังในการป้อนข้าวเพราะจะทำให้เด็กๆเกลียดช่วงเวลากินข้าวทันที นอกจากนี้ยังเกลียดอาหารที่ถูกบังคับด้วย และสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกันก็คือการติดสินบนลูก เช่นว่าให้กินผักแล้วจะได้ขนม เป็นสิ่งธรรมดาที่หลายบ้านทำกันบ่อย ซึ่งมันไม่ควรทำเลย เพราะนั่นเป็นการส่งเสริมให้ลูกมีข้อแม้ต่างๆในการอยู่ด้วยกันในอนาคต เช่น กินข้าวหมดจานแล้วจะต้องได้เล่นแทปเลต ไปโรงเรียนแล้วจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ สอบได้คะแนนดีแล้วจะได้ไปเที่ยว เป็นต้น
มั่นใจได้เลยว่าหลายคนทำแบบนี้กับลูกเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีที่ตัวเองอยากให้ลูกทำได้ แต่มันคือการได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ลูกไม่เต็มใจและไม่ได้เห็นความสำคัญจริงๆของสิ่งที่ทำอยู่ ไม่ควรเลยที่จะใช้และสอนเข้าด้วยวิธีนี้เช่นกัน

การกินข้าวเป็นกิจกรรมที่ดีมากภายในครอบครัว ยิ่งทำให้เป็นสิ่งที่ดีเท่าไหร่ก็จะสร้างความทรงจำที่ดีได้มากเท่านั้น หลายครั้งที่เด็กๆมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารักและก่อให้เกิดความไม่พอใจแก้พ่อ-แม่ ที่ทำงานมาเหนื่อย เครียดกับชีวิต แต่ในเมื่อเลือกที่จำมีลูกแล้วก็ต้องลูแลเขาให้ดีที่สุด ไม่โมโหใส่ บังคับ หรือบอกปัดให้เขาสนใจอย่างอื่นเพื่อไม่ให้กวนใจตนเอง เพราะมันจะเป็นปมในใจที่ในอนาคตเขาจะไม่สนใจคุณจริงๆอีกเลย